จมูกบาน จมูกชมพู่ ดูดีขึ้นได้ ถ้าแก้ไขให้ถูกจุด จึงจะถูกใจ
จมูกบาน ทำไงดี
จมูกบาน ไม่ได้รูปทรง จมูกชมพู่ ยิ้มแล้วบานมากขึ้น เป็นปัญหาด้านความงามที่พบได้บ่อยๆ สำหรับคนเอเชีย เพราะด้วยเชื้อชาติและกรรมพันธุ์ นอกจากจะไม่ค่อยมีดั้งกันแล้ว ปีกจมูก หรือปลายจมูก ไม่ได้รูปก็มักจะมีปัญหาเช่นกัน ดังนั้นจะเห็นกันได้บ่อยๆ ว่าเวลาทำศัลยกรรมจมูกแล้วมักจะตัดปีกจมูกไปด้วย เพื่อให้จมูกโดยรวมดูเล็กลง ได้สัดส่วน ทำให้หน้าเป๊ะปังมากขึ้น
การตรวจสอบง่ายๆ ว่าจมูกบานหรือไม่
– ให้สังเกตง่ายๆ โดยการดูว่าปีกจมูกเลยหัวตาของคุณออกไปหรือไม่ (ตามรูป) ถ้าไม่เลย หรือเลยออกไปนิดเดียวและไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา ก็ปล่อยไว้อย่างนั้น แต่ถ้ารู้สึกว่าปีกจมูกดูบานหรือปีกจมูกเลยหัวตาออกไปเยอะ โดยเฉพาะเวลายิ้ม นั่นแสดงว่าจมูกของคุณบานและไม่สมส่วนกับใบหน้า ซึ่งทางแก้ก็คือมาปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และแนวทางแก้ไขต่อไป
สาเหตุของจมูกบาน จมูกชมพู่ และแนวทางแก้ไข
ก่อนตัดสินใจแก้ปัญหาจมูกบาน สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก คือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ละเอียดก่อน ว่าสาเหตุของจมูกบานนั้นมีสาเหตุจากอะไร โดยแพทย์จะตรวจสอบ เพื่อวางแนวทางแก้ไขให้เหมาะสม สาเหตุหลักๆ มีดังนี้
1. จากเนื้อผิวหรือไขมัน ในคนที่มีเนื้อผิวหรือไขมันใต้ผิวบริเวณจมูกมากเกินไป จะทราบได้จากจมูกจะกลมๆ เหมือนชมพู่ ปลายไม่คม และเมื่อจับดูบริเวณจมูกจะค่อนข้างนิ่ม
แนวทางแก้ไข : ถ้าเนื้อผิวจมูกนุ่ม การฉีดเมโสแฟตรัดแกนจมูก จะช่วยลดความหนานุ่มของเนื้อจมูกลงได้ มักจะทำทุก 1 อาทิตย์จนกว่าจะพอใจ หลังทำสาเหตุลดได้ถาวร ไม่กลับมาใหม่ ไม่มีแผลเป็นหลังทำ
2. จากกล้ามเนื้อ : ดูได้จากเวลาที่ยิ้ม หากปีกจมูกยกขึ้นตาม แสดงว่าเกิดจากกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณเหนือปีกจมูก ทำงานมากกว่าปกติ กล้มเนื้อที่เกี่ยวข้อง มีอยู่ 3 มัด ดังภาพด้านล่าง
แนวทางแก้ไข : : มักจะแก้ไขด้วยการฉีดโบทอกซ์ลดปีกจมูก ซึ่งต้องทำซ้ำทุก 4 เดือน ไม่มีแผลเป็นหลังทำ ส่วนตำแหน่งการฉีดก็แตกต่างกันแล้วแต่จมูกบานจากกล้ามเนื้อมัดไหน ซึ่งกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องมีดังนี้
2.1. กล้ามเนื้อ Transverse Nasalis Muscles (หมายเลข 1) : กล้ามเนื้อมัดนี้เจอได้บ่อยสุด สังเกตได้ เวลายิ้มแล้วจมูกบานกางออกเลยหัวตามากขึ้น แต่เวลาไม่ยิ้ม ปีกจมูกไม่เลยหัวตา กล้ามเนื้อมัดนี้ นอกจากจะฉีดลดปีกจมูกแล้ว ยังสามารถฉีดโบท็อกซ์รัดแกนจมูก เพื่อให้สันจมูกคมชัดและดูโด่งขึ้น รวมถึงลดริ้วรอยบริเวณสันจมูกส่วนบน เวลายิ้ม จะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์
2.2 กล้ามเนื้อ Dilator Naris Muscles (หมายเลข 2) : กล้ามเนื้อมัดนี้ สังเกตได้ เวลาทำปีกจมูกให้หุบบานเข้าออก แล้วรูจมูกกว้างขึ้น
2.3 กล้ามเนื้อ Depressor Septi Nasi Muscles (หมายเลข 3) : กล้ามเนื้อมัดนี้ สังเกตได้ เวลายิ้มปลายจมูกจะงุ้มลง ทำให้ปีกจมูกบานออก
3.จากกระดูกอ่อน สังเกตได้จากปีกจมูกจะบานเลยหัวตา ไม่ว่าจะยิ้มหรือไม่ยิ้ม ยิ่งถ้ายิ้มยิ่งบานมากขึ้น ถ้าจับดูก็จะพบว่าปีกจมูกจะแข็งไม่นิ่ม
แนวทางแก้ไข : มักจะแก้ไขด้วยทำศัลยกรรมตกแต่งปีกจมูก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยแก้ไขรูปทรงจมูกในผู้ที่มีปีกจมูกกว้าง รูจมูกบาน รูจมูกใหญ่ โดยการศัลยกรรมนี้จะทำให้จมูกดูเรียวเล็ก ได้สัดส่วนเข้ากับรูปหน้ามากขึ้น ด้วยแผลที่ไม่ใหญ่มากและใช้เวลาไม่นาน จึงสามารถทำร่วมกับการเสริมจมูกได้ มีแผลเป็นหลังทำ แต่แพทย์ส่วนใหญ่จะมีเทคนิคซ่อนแผลบริเวณรอยพับของจมูก ทำให้ไม่เป็นจุดสังเกตเห็นได้ง่าย เทคนิคที่ใช้ในการทำ ศัลยกรรมตัดปีกจมูก เทคนิคที่ทำหลักๆ คือ
- การเย็บ ตัดปีกจมูกด้านใน หรือ การตัดปีกจมูกแผลใน โดยไม่จำเป็นต้องตัด
- การตัดเนื้อออกเพื่อลดความกว้างของฐานรูปทรงจมูก (วิธีนี้เหมาะกับคนที่ปีกจมูกไม่หนามากนัก)
- การตัดเนื้อจมูกด้านข้างออกไป และการตัดความหนาของปีกจมูก (วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกค่อนข้างเยอะหรือเนื้อจมูกหนา