Ulthera ดึงหน้า ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ครั้งเดียวจบ ครบทุกปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

เวชศาสตร์ความงาม

16 สิงหาคม 2014


Ulthera คืออะไร

Ulthera คือ เครื่องยกกระชับ ปรับรูปหน้า แบรนด์อเมริกา ทำงานโดยการปล่อย คลื่นเสียง Focus Ultrasound คลื่นจะเปลี่ยนเป็นความร้อน 63 องศา ถึงชั้น SMAS ซึ่งเทคโนโลยีอื่น ๆ ในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ยกเว้นการทำศัลยกรรม
SMAS สำคัญอย่างไร
– มีความสำคัญในการยึดผิวหนังเข้าไว้กับกระดูกเป็นเหมือนชั้นกาวสองหน้าที่คอย เชื่อมผิวกับโครงร่างใบหน้าเข้าไว้ด้วยกัน เพราะปัญหาหย่อนคล้อยของผิวหน้า เกิดจากความเสื่อมหรือความอ่อนแอของชั้น SMAS
Ulthera ทำงานอย่างไรตรงชั้น SMAS
-พลังงานความร้อนจุดเล็กๆ จำนวนมากของ Ulthera จะ มุ่งเป้าหมายตรงรอยต่อของชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน ( SMAS ) แล้วทำการซ่อมแซม ส่วนที่หย่อนคล้อยให้กลับมากระชับ คล้ายกับการยิงแมกซ์เย็บกระดาษให้ยึดติดกัน
– โดยในขณะที่ทำ แพทย์สามารถเห็นสภาพผิวหนังที่กำลังรักษาผ่านหน้าจอเครื่องตลอดเวลา ( SEE and TREAT ) ในขณะที่เครื่องอื่น ไม่มี ทำให้เห็นจุดบกพร่องของผิว และทำการรักษาได้แม่นยำ และได้ผลการรักษาที่แน่นอนกว่า ขบวนการรักษาทั้งหมดนี้จะไปกระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ผิวค่อยๆ กระชับขึ้น รูปหน้าเล้กลง และดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ก่อให้ผลกระทบกับผิวบริเวณข้างเคียง จึงทำให้มีความปลอดภัยสูง และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

เปรียบเทียบ Ulthera กับการยกกระชับด้วยวิธีอื่นๆ

1. Ulthera พลังงานจะลงลึกสุดถึงชั้น SMAS ขณะที่ Thermage or Exilis ซึ่งเป็นคลื่นวิทยุ จะลงถึงเพียงชั้นไขมันหรือคอลลาเจน
2. พลังงานของ Ulthera เป็น Focuse Ultrasound Original จึงโฟกัส ตรง SMAS ได้แม่นยำทุกจุด และตรวจเช็คได้จากจอมอนิเตอร์ ส่วน HIFU ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า แต่ละยี่ห้อลงลึกได้ทุกครั้งที่ยิงมั้ย เพราะไม่มีจอมอนิเตอร์ให้สังเกตได้
3. การร้อยไหมยกกระชับผิว ก็ออกฤทธิ์ที่ชั้นไขมันหรือคอลลาเจน ส่วนชนิดของไหม ไม่ว่าไหมก้างปลา หรือแบบไหนก็ไม่สามารถลงลึกได้มาก ส่วนจะอยู่ได้นานแค่ไหน ก็แล้วแต่ชนิดของไหม ปกติจะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
4. การทำเลเซอร์ยกกระชับผิว เฃ่น Gentle YaG or V-beam เพื่อจะทำ Rejuvenation พลังงานจะ ก็ออกฤทธิ์ที่ชั้นหนังแท้ (Dermis) หรือกระชับผิวส่วน ปกติจะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน
5. ฉีดโบทอกซ์ลิฟท์กรอบหน้า จะช่วยกรณีที่อายุยังไม่มาก และกรอบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย จะฉีดชั้นเดียวกับที่ทำเลเซอร์ กระชับหน้า โดยจะออกฤทธิ์ที่ชั้นกล้ามเนื้อด้านบน ส่วนการฉีดกล้ามเนื้อชั้นลึก ด้วยโบทอกซ์ มักจะใช้ในการปรับรูปหน้า ซึ่ง Ulthera ก็ช่วยได้ระดับนึง เมื่อผิวหนังกระชับขึ้น หน้าก็จะดูเล็กลงได้ เช่นกัน โบทอกซ์ลิฟท์กรอบหน้าจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
6. การนวดหน้า ก็ออกฤทธิ์ที่ชั้นหนังแท้ (Dermis) และตื้นกว่าการฉีดโบทอกซ์ หรือเลเซอร์กระชับผิว พวกนี้อยู่ได้ 1-2 อาทิตย์
ดังนั้นถ้าหวังผลยกกระชับในส่วนลึก ให้ได้ผลใกล้เคียงกับการผ่าตัดดึงหน้าที่ทำที่ชั้น SMAS เหมือนกัน ก็คงมีแต่เครื่อง Ulthera เท่านั้นที่สามารถนำมาทดแทนการผ่าตัดดึงหน้าได้ หรือทำให้ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการผ่าตัดดึงหน้า ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำไปทำงานได้ตามปกติ

Ulthera เหมาะกับใคร
        ผู้ที่มีเริ่มมีความเสื่อมของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนัง ได้แก่ การลดลงของคอลลาเจนตามอายุ การสูญเสียไขมันที่ใบหน้า มีไขมันสะสมบริเวณข้างแก้มและเกิดเหนียง ได้แก่ 

  1. ผู้ที่มีหน้าใบหน้าคล้อย ไม่กระชับ
  2. ผู้ที่มีคิ้วตก หรือ หนังตาตก
  3. ผู้ที่มีกรอบรูปหน้าไม่ชัดเจน 
  4. ผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยใต้คาง
  5. ผู้ที่มีผิวหนังคอและเนินอกไม่กระชับ 
  6. ผู้ที่มีปัญหาคล้อยที่แขน
  7. ผู้ที่มีหน้าท้องไม่กระชับ 
  8. ลดภาวะเหงื่อออกมากที่รักแร้

ผู้ใดที่ไม่ควรทำ Ulthera

  1. ผู้ที่ได้รับการฝังแผ่นโลหะหรือฝังอุปกรณ์ทางการแพทย์บริเวณผิวหน้าและลำคอ
  2. สตรีตั้งครรภ์
  3. ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคลมชัก หรือเป็นเบาหวาน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการทำ

ผลการรักษาและข้อควรระวัง

  1. ให้ผลการรักษาเทียบเคียงกับการทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงใบหน้า ส่วนได้ผลมากน้อยแค่ไหน ีขึ้นอยู่กับจำนวนLines ที่ยิง ความแรง และประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำ
  2. หลังทำ ไม่มีรอยแผลเป็น ใช้ระยะเวลาสั้นในการดูแลรักษาผิวหน้า อาจพบอาการบวมแดงเล็กน้อย บริเวณที่ทำการรักษาและหายเป็นปกติภายใน 1-2 อาทิตย์
  3. อาจเกิดความปวดขณะทำ ลดความปวดได้ด้วยการทายาชา ก่อนการทำ 45-60 นาที.
  4. อาจพบห้อเลือด เกิดขึ้นได้หากพลังงานโดนเส้นเลือด อาการจะดีขึ้น 3-7 วันหลังการรักษา
  5. หากพลังงานโดนเส้นประสาท อาจทำให้เกิดการกล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว ชาชั่วคราวได้ จะหายได้เองใน 1-2 เดือน
  6. อาจเกิดแผลเป็นขึ้นได้ หากยิงด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง
  7. ผลการรักษาจะเห็นชัดขึ้นในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน การรักษาต่อครั้งจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
  8. ผู้ป่วยควรจะกลับมาหลังจากทำการรักษา 3 เดือน สำหรับการประเมินซ้ำ

Related