การดูแลผิวพรรณ และขั้นตอนการทาครีมบำรุงผิว อย่างไรให้ถูกวิธี เมื่อย่างเข้าหน้าหนาว
เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว สุขภาพผิวพรรณในช่วงนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ผิวหน้าจะแห้งตึงได้ง่าย การบำรุงดูแลผิวหน้า อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง จึงจะแนะนำขั้นตอนในการดูแลผิว ในช่วงหน้าหนาวกันอย่างง่าย ๆ ดังนี้นะครับ
- เช็คผิวหน้าก่อนว่า ลักษณะผิวในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผิวแห้ง ผิวมัน หรือ ผิวผสม ในช่วงนี้
- ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ควรเลือกที่ไม่มีฟองมากนัก เพราะฟองมากๆ จะทำให้ผิวหน้าแห้งตึงได้ง่าย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ที่มีส่วนประกอบของสารเคลือบผิว เช่น Lanolin,Urea ซึ่งมักจะพบในกลุ่มเจลล้างหน้า หรือโฟมไม่มีฟอง เพื่อลดการสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงผิว
- ไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะทำให้ผิวหน้าแห้งตึงมากขึ้น
- ไม่ควรดูดสิวเสี้ยนในช่วงนี้ เพราะจะทำให้รูขุมขนกว้างได้ง่าย
- งด หรือละเว้นการขัดหน้าด้วยครีมที่มีเม็ดขัดหน้าในช่วงนี้
- ควรดื่มน้ำสะอาด มากๆ เพื่อเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงผิว
- ควรล้างเครื่องสำอางออกให้หมดเกลี้ยง เมื่อกลับถึงบ้าน และทาครีมบำรุงผิวทันที
- สำหรับผิวผสม บริเวณ T-zone ที่มัน อาจใช้สบู่ล้างหน้ าหรือโลชั่นเช็ดหน้าได้บ้าง
- มาส์คหน้า อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ด้วยครีมบำรุง สำหรับสาวผิวแห้ง
- หลีกเลี่ยง การทำ Peeling ไม่ว่า ด้วย AHAs,BHAs ,TCA หรือ ครีม เจลที่ส่วนผสมของกรดผลไม้ เพื่อป้องกันผิวหน้าลอกมากขึ้น
- กรณีที่ทำไอออนโตประจำ แนะนำให้ลดความเข้มข้นของ วิตามินเอที่ใช้ทำประจำ และเพิ่มสารหล่อลื่นผิว เช่น Hyaluronic
- กรณีที่รับประทานยากลุ่มเรตินอยด์ เช่น roaccutane,acnotin,Isotane อาจจะต้องลด Dose ของยาลง หรือ งดรับประทาน ถ้าผิวหน้าแห้งตึงมาก
- นวดหน้าด้วยครีมบำรุง อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของโลหิต
- ทาครีมบำรุง( Moisturizer) เช้าและก่อนนอนทุกวัน
- เมื่อมีปัญหาด้านผิวหน้า ควรพบแพทย์ประจำทันที
- ในผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าอักเสบเซ็บเดิร์ม อาจจะมีอาการกำเริบขึ้นได้ การทาครีมแก้แพ้ ครีมบำรุงผิว และพักผ่อนให้เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัย ที่ทำให้อาการกำเริบ เช่น อัลกอฮอล์ ภาวะเครียด
- หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า การผิงไฟ หรือความร้อนที่ให้ร่างกายอบอุ่น เพราะจะยิ่งเพิ่มการแตก แห้ง ตึงของผิวพรรณ
ขั้นตอนการทาครีมบำรุงผิวพรรณ
- ทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด แล้วเลือกปริมาณครีมที่ต้องใช้ให้พอเหมาะตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม เพราะถ้าน้อยเกินไป ก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร หรือถ้ามากเกินไป ก็จะทำให้ผิวหน้ามันเกินไป และก็เปลืองโดยใช่เหตุ ซึ่งส่วนใหญ่จะประมาณ 1 ข้อมือหรือ 1 ลูกเชอรี่
- เริ่มแต้มครีมที่บริเวณ 5 จุด ของใบหน้า คือ หน้าผาก จมูก แก้มทั้งสองข้างและคาง
- ใช้นิ้วกลางและนิ้วนาง ในการเกลี่ยวนบริเวณที่กว้างที่สุดก่อน เช่น โหนกแก้ม โดยเริ่มจากส่วนกลางไปยังส่วนข้างๆ โดยทางด้านซ้ายออกซ้าย และทางด้านขวาออกขวา แล้วตามด้วยแนวสันจมูก ใต้โพรงจมูก คาง และหน้าผาก โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ เพราะอาจจะต้องใช้ครีมชนิดเฉพาะรอบดวงตาทาแทน
- การลงน้ำหนักนิ้วควรจะเบาที่สุด เพราะผิวหน้าเป็นผิวที่บอบบาง ควรได้รับการทะนุทะนอม ถ้าลงน้ำหนักแรงเกินไป อาจจะทำให้เกิดรอยย่นในภายหลังได้
- การทาครีมรอบดวงตา ควรใช้ปริมาณเนื้อครีมประมาณ 1 เมล็ดถั่วเขียว แล้วใช้นิ้วนางเพียงนิ้วเดียวในการทา เพราะจะน้ำหนักกดเบาที่สุด แล้วทาครีมไล่ตามแนวโครงกระดูกเบ้าตา อาจจะเริ่มที่หัวตาหรือหางตาก่อนก็ได้ แล้ววนครีมรอบๆ ดวงตาจะวนเข้าหรือวนออกก็ได้ตามถนัด แต่ต้องวนไปในทิศทางเดียวกันทั้งสองข้าง
- การทาครีมบริเวณลำคอ ควรใช้ปริมาณเนื้อครีมเท่ากับที่ใบหน้าประมาณ 1 ข้อมือ โดยเริ่มจากบิรเวณที่กว้างที่สุดของลำคอก่อนคือ บริเวณฐานลำคอแล้วใช้ปลายนิ้วทั้งหมดค่อยๆ ลูบไล้ขึ้น ไม่ควรทาลงนะครับ เพราะจะทำให้ผิวบริเวณลำคอหย่อนยานไปตามแนวโน้มถ่วงของโลก ทำให้เกิดรอยย่นภายหลังได้
- การทาครีมบริเวณหน้าอก อาจจะใช้ครีมที่เหลือจากลำคอ ทาลูบไล้ในช่วงอกต่อไปได้ โดยการใช้ปลายนิ้วลูบไล้เพียงเบาๆ และวนให้ทั่วแผ่นอก เพื่อการซึมซับของเนื้อครีมสู่ผิว แล้วค่อยไล่ทาไปที่หน้าท้องและส่วนหลัง
- การทาครีมบริเวณแขน จะใช้ครีมปริมาณมาก ประมาณ 2-3 ข้อมือ โดยเริ่มต้นที่ต้นแขนด้านท้องแขนก่อน แล้วทาวนขึ้นหลังแขน โดยการใช้ปลายนิ้วลูบไล้เพียงเบาๆ เพื่อการซึมซับของเนื้อครีมสู่ผิว
- การทาครีมบริเวณขาและเท้า จะใช้ครีมปริมาณมากเช่นกัน ประมาณ 2-3 ข้อมือ โดยเริ่มต้นที่ต้นขาก่อน แล้วทาวนจากด้านต้นขาไปปลายขา โดยการใช้ปลายนิ้วลูบไล้เพียงเบาๆ เพื่อการซึมซับของเนื้อครีมสู่ผิว โดยควรจะเน้นบริเวณหน้าแข้งสองข้างให้มาก เพราะบริเวณนี้จะแห้งได้ง่าย ส่วนบริเวณเท้าควรทาทั้งสองด้าน คือ หลังเท้าและฝ่าเท้า พร้อมทำการนวดไปทั่วอุ้งเท้า เพื่อผ่อนคลายและเพิ่มการไหลเวียนโลหิต