profhilo คืออะไร
Profhilo คือ สารฟื้นฟูโครงสร้างผิว (Bio-Remodeling) ที่เกิดจากการรวม HA โมเลกุลเล็กและใหญ่เข้าด้วยกัน เกิดเป็นสารใหม่ ที่ช่วยฟื้นฟูทุกชั้นของผิวหนัง ทั้งเติมเต็มความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยังซ่อมแซมผิวชั้นบนได้อีกด้วย
1. อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป
เริ่มต้นดูแลผิวเพื่อชะลอวัย: หลังอายุ 25 คอลลาเจนจะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ประมาณ 1% ต่อปี ในวัยรุ่น ที่อยากเริ่มดูแลผิว Profhilo เป็นตัวเลือกนึงที่ดี เพราะเป็นสาร HA อย่างเดียว และเป็นการฉีดที่ทำได้ง่าย เจ็บน้อย ไม่ต้องใช้การดูแลมากเท่าสารตัวอื่น ๆป้องกันและแก้ปัญหาทุกชั้นผิว Profhilo ช่วยปรับปรุงโครงสร้างผิวโดยรวม และออกฤทธิ์ได้ทุกชั้นผิว จึงเหมาะกับท่านที่อยากได้การรักษาเดียวที่ได้ผลอย่างครอบคลุม
2. ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ และหมองคล้ำ
เพิ่มความชุ่มชื้น: Hyaluronic Acid (HA) ที่เข้มข้นใน Profhilo ช่วยเติมน้ำให้ผิวจากภายใน ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและมีชีวิตชีวา แก้ปัญหาผิวขาดน้ำได้อย่างดีลดความหมองคล้ำ: HA ที่กระจายมาถึงผิวชั้นบน จะช่วยให้ผิวคุณภาพดียิ่งขึ้น เกิดการสะท้อนแสง การกระเจิงของแสง ทำให้ผิวฉ่ำวาว (ที่เรียกว่า Glass Skin) จึงช่วยลดความหมองคล้ำ ดูสุขภาพดีขึ้น
3. ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
บริเวณใบหน้าและลำคอ: Profhilo ช่วยยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ทั้งใบหน้า แก้ม กรอบหน้า คอ และเหนียง จากการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน
4. ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ รอยแผลเป็น หลุมสิว
ลดเลือนริ้วรอย: การปรับปรุงโครงสร้างผิวให้แน่นกระชับ การกระตุ้นคอลลาเจน รวมถึงกระตุ้นการซ่อมแซมผิวชั้นนอก ช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ตื้นขึ้นได้ ฟื้นฟูรอยแผลเป็นจากสิว: Profhilo ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูเนื้อเยื่อผ่านหลายกระบวนการ จึงช่วยลดรอยแผลเป็นและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น การฉีดคู่กับการรักษาหลุมสิวและรอยแผลเป็นด้วยเลเซอร์ จะยิ่งช่วยเสริมฤทธิ์ให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น
ฟื้นฟูทุกชั้นผิว: จากคุณสมบัติที่สาร HCC สามารถกระจายตัวได้ดี และเร็วมาก ยาจะกระจายไปยังผิวหนังชั้นตื้น ชั้นโครงสร้างผิว ชั้นไขมัน ชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการซ่อมแซมผิวได้ทุกชั้น จึงเหมาะกับท่านที่ต้องการแก้ปัญหาทุกชั้นผิวพร้อม ๆ กันแก้หลายปัญหาในครั้งเดียว: เพราะสาร HCC สามารถกระตุ้นได้ทั้ง Keratinocyte (ผิวชั้นนอก) , Fibroblast (คอลลาเจน) , Adipocyte (ชั้นไขมัน) และ Myocyte (ชั้นกล้ามเนื้อ) จึงให้ผลกับผิวอย่างครอบคลุม จึงเหมาะกับการฟื้นฟูโครงสร้างผิวโดยรวมให้แข็งแรง สุขภาพดี กระชับ ยืดหยุ่นขึ้น
6. ต้องการการฉีดที่ง่าย เจ็บน้อยกว่า และใช้เวลาไม่นาน
ไม่ต้องหยุดงานหรือพักฟื้น: Profhilo มีจุดเด่นที่กระจายตัวยาได้ดีมาก จึงไม่ต้องฉีดหลายจุด ลดโอกาสการช้ำ จึงสามารถกลับไปทำงานได้ทันที บวมน้อย ยุบไว: สาร HCC เป็นการเชื่อมโมเลกุล HYA ด้วยเทคนิคการปรับอุณหภูมิ ไม่ต้องใช้สารเคมี ทำให้ลดโอกาสบวมหลังฉีด และจากที่ยากระจายดี อาการบวมบริเวณจุดฉีดจึงลดได้อย่างรวดเร็ว (ประมาณ 50% ใน 3 ชม. และ 100% ใน 24 ชม.)ใช้เวลาน้อย: การฉีด Profhilo ใช้เพียง 5 จุด/ข้าง ในบริเวณแก้ม และ 15 จุด ทั่วลำคอ จึงใช้เวลาฉีดไม่นาน เพียง 15 นาทีก็สามารถฉีดได้ครบ เรียกได้ว่าเป็น Lunch Time Procedure
มีองค์ประกอบสำคัญคือ Hyaluronic acid ที่ทุกคนคุ้นเคย แต่เป็น Hyaluronic acid ที่ผ่านกระบวนการพิเศษที่ติดสิทธิบัตรคือ เทคโนโลยี NAHYCO ซึ่งเป็นการสร้างพลังงานความร้อนแบบจำเพาะ ทำให้ Hyaluronic acid สองขนาด เกิดการสร้างพันธะต่อกันเป็นโครงสร้างแบบพิเศษเรียกว่า HCC หรือ Hybrid Cooperative complex ซึ่งมีปริมาณ Hyaluronic acid มากที่สุดในท้องตลาด แต่กระจายตัวได้ดี มีลักษณะเป็นของเหลว ไม่เป็นก้อน และแสดงคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์ประเภท cross-linked Hyaluronic acid ซึ่งไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อการกระตุ้นคอลลาเจน
ได้ทั้งเติมความชุ่มชื้นผิวฉ่ำวาว และกระตุ้นคอลลาเจนผิวกระชับ
ไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นก้อนหลังฉีดดูเรียบเนียนไปกับผิว
ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ แทบไม่เกิดการอักเสบ
ไม่อุดตันเส้นเลือด
ฉีดได้ทั้งใบหน้า ลำคอ ลำตัวfhilo แตกต่างจากฟิลเลอร์งานผิว เมโส หรือสารกระตุ้นคอลลาเจนอย่างชัดเจน
ข้อดีของการฉีด profhilo
ทำให้ริ้วรอยและจุดด่างดำลดน้อยลง สร้างเสริมความยืดหยุ่นและความกระชับให้ผิว ฟื้นฟูรอยแผลจากสิวหรือการบาดเจ็บ ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี โดยที่กระบวนการปรับโครงสร้างผิวสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อช่วยให้ร่างกายสมานแผล แต่การกระตุ้นกระบวนการด้วยวิธีทางการแพทย์โดยการฉีดกรดไฮยาลูรอนิกเข้มข้นสูง ก็สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูโครงสร้าง และปรับสมดุลทุกชั้นผิวตั้งแต่ชั้นตื้นจนไปถึงชั้นลึก เพื่อผลลัพธ์ด้านความงามได้ด้วยเช่นกัน
ปรับโครงสร้างของ extracellular matrix ทำให้เซลล์ดี ได้แก่ เซลล์ผิวหนัง Keratinocytes เซลล์หนังชั้นกำพร้าชั้นนอกสุด ช่วยป้องกันผิวหนังจากอันตราย เซลล์ FIBROBRASTS คอยสร้างเส้นใย และเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอย่างเส้นใยอีลาสติน เส้นใยคอลลาเจน และเซลล์ไขมัน ADIPOCYTES มีประโยชน์ต่อร่างกายสูงอยู่ได้ยาวนานขึ้น
ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1,3,4 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท และเส้นเลือด ชนิดที่ 7 ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง สมานแผลได้ดี ป้องกันไม่ให้ผิวเปราะบาง และกระตุ้นอีลาสตินในชั้นผิวให้มากขึ้น
ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
จากงานวิจัย เพื่อผลลัพธ์ที่ดี แนะนำให้ฉีด อย่างน้อย 1 หลอด ติดกัน 2 ครั้ง (ห่าง 1 เดือน) และประเมินผลลัพธ์อีกทีที่ 4 เดือน หากยังต้องการผลลัพธ์ที่มากขึ้น ก็สามารถฉีดซ้ำได้อีก ขึ้นกับแพทย์ที่ทำการรักษา
สำหรับ 1 หลอดของ Profhilo ประกอบด้วยตัวยา 2 CC ซึ่งเพียงพอต่อการฉีดใบหน้าทั้ง 2 ข้าง แต่หากต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวบริเวณคอด้วย จะต้องเพิ่มอีก 1 หลอดครับ
โดยสรุปคือ หากฉีดเฉพาะใบหน้า ใช้ยาอย่างน้อย 2 หลอด (ครั้งละหลอด ห่างกัน 1 เดือน) หากฉีดทั้งใบหน้า และลำคอ ใช้ยาอย่างน้อย 4 หลอด (ครั้งละ 2 หลอด ห่างกัน 1 เดือน)
1. ส่วนประกอบและกลไกการทำงาน
Profhilo: ใช้ Hyaluronic Acid (HA) ความเข้มข้นสูงสุด 2 ขนาดโมเลกุล ช่วยเติมความชุ่มชื้นในทันที พร้อมกระตุ้นเซลล์สำคัญในชั้นผิว เช่น Fibroblast, Keratinocyte, Adipocyte และ Myocyte เพื่อฟื้นฟูผิวโดยรวม
Biostimulator: ใช้สารอย่าง Poly-L-Lactic Acid (PLLA) หรือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดใหม่ในระยะยาว เน้นการปรับโครงสร้างผิวให้กระชับจากภายใน
2. ระยะเวลาเห็นผล
Profhilo: ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส และยกกระชับใน 2-3 สัปดาห์ เห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 1 เดือน
Biostimulator: เริ่มเห็นผลใน 4-6 สัปดาห์ โดยผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ และชัดเจนเต็มที่ใน 3-6 เดือน
3. ระยะเวลาคงอยู่ของผลลัพธ์
Profhilo: ผลลัพธ์คงอยู่ประมาณ 6-12 เดือน
Biostimulator: ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า 12-18 เดือน หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ใช้
4. การพักฟื้น
Profhilo: ฉีดง่าย ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดอาจมีรอยบวมหรือแดงเล็กน้อยที่บริเวณจุดฉีด ซึ่งหายได้ใน 1-2 วัน
Biostimulator: ฉีดยากกว่า และ อาจมีการบวมแดงหรืออักเสบเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ประมาณ 1 สัปดาห์
5. ปัญหาผิวที่เหมาะสม
Profhilo
– ผู้ที่มี ผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง และต้องการฟื้นฟูความชุ่มชื้น
– ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วและไม่ต้องการพักฟื้น
– ผู้ที่มี หลุมสิว รอยแผลเป็นจากสิว และต้องการปรับปรุงสภาพผิวด้วย
– ผู้ที่ต้องการปรับปรุงโครงสร้างผิวโดยรวม
Biostimulator
– ผู้ที่มีปัญหา ผิวหย่อนคล้อย หรือเริ่มสูญเสียโครงสร้างผิว
– ผู้ที่ต้องการยกกระชับและปรับโครงสร้างผิวในระยะยาว
– เหมาะสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก กรอบหน้าที่ไม่ชัดเจน