ฝ้าขาว หรือคราบขาวในช่องปาก จากเชื้อรา (Oral thrush or White tongue) สาเหตุ และการแก้ไข

ผิวหนัง

6 กันยายน 2005


คราบขาว หรือฝ้าขาวในช่องปาก (white lesions) เป็นผื่นที่พบได้บ่อยๆ เกิดได้หลากหลายสาเหตุ และบางครั้งรอยโรคของผื่นขาวบางอย่าง ก็เป็นลักษณะอาการหนึ่งของการเกิดมะเร็ง หรือเป็นอาการแรกเริ่มที่บ่งบอกให้หาสาเหตุของการติดเชื้อร้ายแรงอย่างอื่นๆ เช่น โรคเอดส์ เป็นต้น ผื่นขาวในช่องปากที่พบได้บ่อยๆ มักจะมีสาเหตุจากการติด เชื้อรา Candida albicans
เชื้อรา Candida albicans เป็นเชื้อราที่ไม่รุนแรง(normal flora) มักจะพบได้ในทางเดินอาหารส่วนล่าง เช่น ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก ยกเว้นในกรณีที่มีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย จึงอาจจะมีการเพิ่มจำนวนและกลายเป็นเชื้อก่อโรคได้ สาเหตุหรือปัจจัย : มีได้ดังนี้
1. เด็กเล็ก ที่ไม่สามารถทำความสะอาดช่องปากเองได้ หรือทารกที่นอนหลับแล้ว อมขวดนมค้างไว้ทั้งคืนบ่อยๆ
2. คนชรา ที่ใส่ฟันปลอมแล้วทำความสะอาดไม่ทั่วถึง
3. คนที่อนามัยช่องปากไม่ดี
4. คนที่สูบบุหรี่จัด เป็นระยะเวลานานๆ
5. คนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ในคนไข้ติดเชื้อไวรัส HIV,หรือผู้ป่วยที่ได้รับสารต้านมะเร็ง(chemotherapy) หรือการฉายแสง

ลักษณะอาการ: รอยโรคจะมีลักษณะเป็นฝ้าขาวขอบเขตชัดเจน บางครั้งดูคล้ายครีมหรือคราบนม(milk-curd like lesions) เกาะติด แน่นในเยื่อบุช่องปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม และเพดานปาก ฝ้าขาวนี้เขี่ยออกได้ง่าย และอาจจะพบลักษณะการอักเสบเป็นรอยแดงหลังขูดออก ดังนั้นอาจจะมีอาการแสบในปากขณะรับประทานอาหาร ในรายที่มีการติดเชื้อรุนแรง อาจจะลุกลามไปถึงหลอดอาหาร ทำให้มีการกลืนลำบาก หรือปวดบริเวณลิ้นปี่เวลากลืน
การวินิจฉัยโรค: แพทย์จะอาศัยลักษณะรอยฝ้าขาวที่พบ และตรวจยืนยันจากการขูดเอาฝ้าขาวไปย้อมสีแกรม หรือย้อมน้ำยา KOH แล้วส่องด้วย กล้องจุลทรรศน์ จะพบลักษณะเป็นเชื้อยีสต์ หรือเป็นสายปล้องๆ ที่เรียกว่า pseudohyphae และในวัยหนุ่มสาวที่ร่างกายแข็งแรง อาจจะต้องเจาะเลือด ดูสาเหตุอื่นร่วมด้วย เช่น การติดเชื้อเอดส์ HIV เพื่อป้องกันการระบาดของโรค และหาแนวทางรักษาที่เหมาะสม
การรักษาเชื้อราที่ปาก : 
1. รักษาและแก้ไขสาเหตุการเกิด เช่น การทำสะอาดอนามัยช่องปากให้ดี สม่ำเสมอและถูกวิธี ( แนะนำให้แปรงฟันและลิ้นร่วมด้วย)
2. การใช้ยาต้านเชื้อแคนดิดา ทั้งในรูปของชนิดอมในปาก(clotrimazole troche) 5 ครั้งต่อวัน หรือน้ำยาบ้วนปาก (nystatin oral suspensions) วันละ 4 ครั้งต่อวัน ติดต่อกัน 1-2 อาทิตย์จนกว่าจะหาย หรือในรายที่รุนแรงอาจจะต้องรับประทานยาต้านเชื้อรา เช่น Ketoconazole วันละ 200-400 มก.ต่อวันนาน 1-2 อาทิตย์ ,Itraconazole วันละ 100 มก.นาน 1-2 อาทิตย์ และในคนไข้เอดส์ อาจจะต้องรับประทานยานานกว่านั้น เพื่อป้องกันการ กลับมาเป็นซ้ำได้

Related