การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) คืออะไร มีข้อดี และข้อเสีย อย่างไร เมื่อเทียบกับแบบปิด
การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) คืออะไร
วิธีนี้เป็นการเปิดแผลที่บริเวณฐานจมูกของคนไข้ จะใช้วิธีกรีดผ่าจมูกในแนวดิ่ง โดยเริ่มเปิดแผลตั้งแต่บริเวณปีกจมูกข้างซ้าย ไปถึงปีกจมูกข้างขวา แล้วทำการแยกเนื้อและผิวหนังออกจากโครงสร้างจมูก วิธีนี้จะเผยโครงสร้างภายในของจมูกได้ทุกส่วน ทำให้หมอสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างตรงจุด จึงช่วยปรับแก้ไขได้ เพราะจะมองเห็นจุดบกพร่องต่างๆ ได้ครบถ้วน สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเนื้อจมูกบาง แกนจมูกเดิ่มเบี้ยวเอียง หรือมีฟิลเลอร์หลงเหลืออยู่หรือเปล่า
การเสริมจมูกแบบโอเพ่น นิยมทำในกรณีไหนบ้าง :
การเสริมจมูกแบบโอเพ่น นิยมทำในกรณีไหนบ้าง :
- เนื้อจมูกน้อยและจมูกสั้น
- กระดูกคดเบี้ยวเสียรูป
- ผ่าตัดเสริมจมูกมาก่อนแล้วเกิดความผิดพลาดอยากแก้จมูก
- เสริมจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์มาก่อนเกิดการเสียรูปต้องการแก้ไขต้องขูดฟิลเลอร์ออก
- จมูกมีฮัมพ์ คือ กระดูกที่นูนขึ้นมาบริเวณแนวกระดูก มีลักษณะนูนคล้ายหลังอูฐ
- เนื้อปลายจมูกโตแบบชมพู่
- จมูกสั้นจะต่อจมูกให้ยาวขึ้น และต้องการให้ปลายจมูกพุ่งขึ้น มีหยดน้ำมากขึ้น
การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไรบ้าง :
ข้อดี
1. เลือกทรงจมูกได้ตามที่ต้องการ และดูเป็นธรรมชาติกว่าเสริมจมูกแบบปิด
2.ศัลยแพทย์สามารถผ่าตัดแก้ไขปัญหาจมูกได้ดีกว่า สมบูรณ์กว่า เพราะสามารถเห็นถึงโครงสร้างภายในจมูกได้ดีกว่า
3. ศัลยแพทย์สามารถตกแต่งปลายจมูกเพิ่มเติม โดยการใช้กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อสังเคราะห์ ได้่ง่ายกว่าการเสริมจมูกแบบปิด
4. สามารถยกปลายจมูกให้สูงพุ่ง สวยเนียนเป็นธรรมชาติ
5. โอกาสเกิดซิลิโคนทะลุในอนาคตน้อยกว่าการเสริมจมูกแบบปิด
6. มีโอกาสที่จมูกจะเอียงหรือเบี้ยวน้อยกว่าการเสริมจมูกแบบปิด
ข้อเสีย
1. มีแผลเป็นที่มองเห็นได้ถ้าเงยหน้าขึ้น แต่ถ้าแพทย์ฝีมือ รอยผ่าจะเล็กมาก
2. ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า และยากกว่าเสริมจมูกแบบปิด ต้องใช้ความละเอียดและฝีมือในการทำ
3. การผ่าตัดในบางครั้งต้องใช้การดมยาสลบด้วย
4. ราคาสูงกว่าการเสริมจมูกแบบปิด
5. ระยะพักฟื้น ใช้เวลานานกว่า และอาจเกิดอาการบวมช้ำได้นานกว่าการ เสริมจมูก แบบปิด