นาโนเทคโนโลยี่ (nanotechnology) กับวงการเครื่องสำอาง
นาโนเทคโนโลยี่ คืออะไร
นาโนเทคโนโลยี่ คือ เทคนิคใหม่ในการทำให้ทุกสิ่งมีขนาดเล็กลงในระดับนาโนเมตร ซึ่งตาเปล่าจะมองไม่เห็น และสามารถแทรกซึมออกฤทธิ์ต่อ บริเวณเป้าหมายโดยตรง( 1 นาโนเมตร เท่ากับ 10 ยกกำลังลบ9 เช่น ถ้าสิ่งหนึ่งมีความสูง 1 เมตร เมื่อจะต้องการจะจำลองทำให้เหลือ 1 นาโนเมตร ก็ต้องจำลองให้เล็กลงสิบล้านเท่า)
ท่านอาจจะได้ยินคำว่า ” นาโนเทคโนโลยี่” กันบ่อยขึ้น เพราะปัจจุบันได้มีการผลิตและคิดค้นหลายสิ่งหลายอย่างด้วยเทคนิคนี้ แล้วก็ยังมีหลักสูตรการเรียนด้านนี้โดยเฉพาะทั้งในประเทศและต่างประเทศ …. … แม้แต่ในแวดวงความสวยความงาม ก็ได้นำเทคนิคนี้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือยา ใช้ในวงการแพทย์เช่นกัน
ในวงการเครื่องสำอาง ได้นำมาทำให้สารออกฤทธิ์หรือยาที่สำคัญ มีขนาดเล็กลง แล้วนำมาผสมในเครื่องสำอาง เพื่อประโยชน์ดังนี้
- เพื่อการแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น และช่วยบำรุงผิวได้ล้ำลึกกว่าครีมบำรุงผิวทั่วไป
- สามารถลดความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ เพื่อป้องกันผลข้างเคียง และเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในขบวนการผลิตที่ไม่จำเป็น
- ผู้บริโภคสามารถทาครีมเพียงปริมาณน้อยๆ ทาบางๆ ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่เหนอะหนะผิวหน้าและไม่เปลืองเกินความจำเป็น
- เครื่องสำอางบางชนิด เช่น ครีมกันแดด ครีมรองพื้น อายแชโดว์ จัดเป็นเครื่องสำอางที่เกาะติดผิว ไม่ต้องการการแทรกซึมสู่ผิวชั้นใน ก็จะผลิตด้วยเทคนิคนาโน ให้มีขนาดเล็กลง จะทำให้เครื่องสำอางเกาะติดผิวได้ดีขึ้น จนแลดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
- ทำให้สามารถบรรจุสารสำคัญในระดับนาโน ลงในแคบซูลเล็กๆ เพื่อป้องกันการสลายตัวของสารสำคัญนั้นๆ หรือต้องการให้สารสำคัญค่อยๆ ออกฤทธิ์อย่างช้าๆ เช่น กลุ่มครีมทาผิวสีแทน ครีมกำจัดขน หรือลิปติกที่ต้องการให้ออกฤทธิ์ช้าๆ ค่อยๆ ทำให้ปากชุ่มชื้นและสีลิปติกติดทนนานได้ทั้งวัน
- ทำให้สามารถบรรจุสารสำคัญหลายชนิดเข้าด้วยกันได้ในขนาดระดับนาโน เพื่อให้ออกฤทธิ์ได้หลายขั้นตอน
หลักการสังเกตว่าเครื่องสำอางชนิดใด ผลิตด้วยนาโนเทคโนโลยี่หรือไม่ ให้ดูที่ฉลากว่ามีการระบุว่าเป็น Nanotech Products หรืออธิบายไว้ด้วยหรือไม่ ซึ่งการดูด้วยตาเปล่าจะไม่สามารถบอกได้ ถ้าต้องการทราบแน่นอน การจัดส่งให้กรมวิทยาศาสตร์ทางแพทย์เป็นผู้ตรวจวิเคราะห์ก็จะทราบได้
ดังนั้นในอนาคตข้างหน้านี้ เครื่องสำอางนาโนเทคโนโลยี่ อาจจะเป็นอีกทางเลือกใหม่การการเลือกใช้เครื่องสำอาง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้ปริมาณน้อยลง แต่ได้ผลดีตามต้องการ และอาจจะประหยัดมากกว่าในปัจจุบันนี้