แมกนีเซียม (Magnesium): แร่ธาตุและอาหารเสริมที่มีประโยชน์ มากกว่าการทำให้กระดูกแข็งแรง
แมกนีเซียม เป็นแร่ธาตุที่สำคัญชนิดหนึ่งของร่างกาย มีผลต่อการทำงานของเอนไซม์หลายร้อยตัว โดยเกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงาน และการทำงาน ของหลอดเลือดและหัวใจ
แต่ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ แมกนีเซียมมีความสัมพันธ์กับแคลเซียม โดยจะเป็นตัวพาแคลเซียมเข้าไปในกระดูกส่วนในเพราะถ้าไม่มีแมกนีเซียมแล้ว แคลเซียมจะพอกอยู่รอบๆ กระดูกเท่านั้น จึงทำให้ขนาดกระดูกใหญ่แต่ความหนาแน่นน้อย
ปริมาณความต้องการของร่างกาย
โดยเฉลี่ยร่างกายต้องการแคลเซียมในปริมาณ วันละ 1,000 มก. จะมีสัดส่วนในการต้องการแมกนีเซียมในสัดส่วน Calcium:Magnesium= 2:1 คือประมาณ 500 มก.ต่อวันโดยประมาณ โดย FDA ของอเมริกา ได้ทำสรุปความต้องการแคลเซียมของร่างกาย ดังนี้ ในผู้ชายประมาณ ไม่น้อยกว่า 350 มก.ต่อวัน และในผู้หญิงปกติ ประมาณ 300 มก.ต่อวัน แต่ในสตรีมีครรภ์ ประมาณ 450-500 มก.ต่อวัน
ตำแหน่งที่แมกนีเซียมสะสม
แมกนีเซียมในร่างกาย 65 % จะสะสมอยู่ที่กระดูกและฟัน ส่วนอีก 35 % จะพบในเลือดและเนื้อเยื่อต่างๆ
แหล่งอาหารที่พบแมกนีเซียมสูง
ผักสีเขียวต่างๆ ข้าวซ้อมมือ ถั่วชนิดต่างๆ ยีสต์ และอาหารทะเล
บทบาทสำคัญของแมกนีเซียม
- ช่วยในนำแคลเซียมเข้าสู่ภายในกระดูกได้มากขึ้น
- ช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อลาย และกล้ามเนื้อเรียบ ( โดยมีแคลเซียมมีบทบาทในการหดตัวของกล้ามเนื้อลายและกล้ามเนื้อเรียบ )
- ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ถ้าขาดอาจทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ( Coronary arteries) เกิดจากหดเกร็งทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลันได้ และในหลอดเลือดทั่วไป ถ้าขาดแมกนีเซียมอาจทำให้การนำออกซิเจนไปยังอวัยวะต่างๆ ไม่เพียงพอ เกิดอาการปวด บาดเจ็บหรือกล้ามเนื้อตายได้
- ทำให้การทำงานของเอนไซม์ที่ใช้ในขบวนการเมตาบอริซึมของโปรตีนและคารโบไฮเดรต และการสร้างและทำงานของ DNA ทำงานได้ปกติ
- มีบทบามในขบวนการสร้าง ATP ซึ่งเป็นสารให้พลังงานแก่ร่างกาย
- ช่วยลดอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ โดยจากการทดลองในคน 81 คน พบว่ากลุ่มที่ได้รับแมกนีเซียมวันละ 600 มก.ต่อวัน เป็นเวลา 9 สัปดาห์ จะมี ความถี่ในการปวดศีรษะไมเกรน ลดลงได้ถึง 42 %
- ช่วยลดอาการปวดท้อง ในระหว่างมีประจำเดือนในสตรี
- ช่วยต่อสู้กับอาการซึมเศร้า ช่วยให้นอนหลับได้ดี
ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายได้รับแมกนีเซียมลดลง และควรหลีกเลี่ยงมีดังนี้
- การรับประทานอาหารจำพวกแป้งที่ผ่านการขัดสีแล้ว
- อาหารที่มีไขมันสูง
- การดื่มน้ำอัดลม แอลกอฮอล์ น้ำหวาน
- การได้รับแคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณที่สูงๆ
- การได้รับประทานยาขับปัสสาวะในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
ดังนั้นในปัจจุบันได้มีการให้ความรู้ทางสื่อมากมาย เกี่ยวกับความสำคัญของแคลเซียม โดยอาจอยู่ในรูปของเครื่องดื่ม นม และอาหารเสริมมากมาย แต่ท่านต้องอย่าลืมแมกนีเซียมด้วย ดังนั้นก่อนเลือกบริโภค ควรดูส่วนประกอบให้ดีว่าได้รับทั้งแคลเซียมและแมกนีเซียมควบคู่ไปด้วยกัน เป็นคู่รัก คู่รส คู่ใหม่