7 ข้อที่ควรต้องรู้ ถ้าคิดจะพิชิตพุง ให้ได้ผล
ดูอย่างไรว่าไม่มีพุง
การมีพุง บ่งบอกถึงการไม่ดูแล ใส่ใจในสุขภาพของตนเอง อาจจะพบว่าป่วยมีโรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน (ส่วนใหญ่) โรคตับแข็ง ฯลฯ
พุง เกิดจากการที่ไขมันมาพอกพูน ไม่ใช่เฉพาะที่หน้าท้อง แต่มีการพอกพูนของไขมันที่เครื่องในด้วย เช่นลำไส้และเนื้อเยื่อรอบและหลังลำไส้ด้วย พุงที่หลามออกมาอย่างนี้มักจะเกิดในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะผู้หญิงเวลาอ้วนมักจะมีไขมันไปพอกพูนที่ตะโพกและต้นขามากกว่า
ผู้ชายที่อ้วนจึงมีลักษณะของลูกฝรั่ง หรือแอปเปิลที่อ้วนกลาง ส่วนผู้หญิงที่อ้วนมักจะมีรูปลักษณ์ของชมพู่คืออ้วนตรงฐาน ส่วนผู้หญิงสูงอายุที่อ้วนอาจจะมีลักษณะพุงหลามเหมือนผู้ชายได้เหมือนกัน
สูตรคำนวณว่ามีพุงหรือไม่
ดัชนีวัดพุง = วัดรอบเอว / วัดรอบสะโพก
– ชายไม่ควรเกิน 0.95
– หญิงไม่ควรเกิน 0.80
ถ้าใครได้ค่าเกินกว่านั้นควรจะทำ ถือว่ามีพุง
7 ข้อคิด พิชิตพุง
- ต้องรู้ว่าหญิงจำเป็นต้องออกแรง ในการลดพุงมากกว่าผู้ชาย ทั้งนี้เพราะสัดส่วนไขมันต่อกล้ามเนื้อ ในผู้หญิง > ผู้ชาย
- การลดอาหาร จะนับเป็นแคลอรีเป็นหลัก ควรการเลือกชนิดของอาหารทีแมีแคลอรี่น้อย แต่อิ่มถือว่าสำคัญ
- ลดพุงได้ดีคือการออกกำลังกายทุกส่วน โดยพบว่า
3.1 การออกแรงไม่หนักแต่นานนั้นจะเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่
3.2 การออกแรงแบบหนักแต่ไม่นานนั้นจะเผาผลาญแป้งที่อยู่ในตัวและกล้ามเนื้อ
จึงแนะนำให้ออกกำลังทั้งสองอย่าง จึงจะช่วยในการลดพุง เพนสะการเล่นกล้ามท้องอย่างเดียวไม่ช่วยในการลดพุงได้เพียงพอ การลดพุงที่ได้ผลคือ การลดไขมันสะสมทั้งร่างกาย แต่การเล่นกล้ามท้องก็จะช่วยในแง่ดึงรั้งให้ท้องยุบลงแลดูสวยงาม - ไม่เครียด เพราะความเครียดจะไปทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน 2 ตัว คือ
4.1 แอดรีนะลีน ทำให้หัวใจเต้นเร็วและแรง ความดันเลือดพุ่งสูง
4.2 ฮอร์โมน Cortisol จะช่วยเสริมฤทธิ์ตัวแรกในการผลักดันไขมันให้ไปพอกพูนอยู่ที่ท้อง - ใครก็ลดพุงได้ ถ้าตั้งใจ ไม่เกี่ยวกับเพศและอายุ
- อย่าอ้างอ้วนเพราะกรรมพันธุ์ เพราะกรรมพันธ์มีส่วนอยู่เพียง 30-40% เท่านั้น ที่เหลือ 60-65% เกี่ียวกับอาหารที่รับประทานเข้าไป แล้วไม่เผาผลาญ
- ตั้งสติ ตั้งใจ อย่างจริงจังเหมือนกับการตั้งใจทำงาน ห้ามพูดคำว่า ขี้เกียจ,ไม่มีเวลา,ช่างมันเถอะ แก่แล้ว ฯลฯ