ผิวแห้ง แตก คัน (Dry skin or Xerosis dermatitis) กลัวแก่ เกาจนเป็นแผล จะป้องกัน แก้ไขอย่างไร

ผิวหนัง

4 กรกฎาคม 2004


ผิวหนังแห้ง เป็นปัญหาทางผิวหนังที่พบได้บ่อย มีลักษณะแห้งและมีขุย อันทำให้เกิดอาการคัน การเกา ซึ่งนำมาให้เกิดการเพิ่มการคัน อักเสบ และเป็นแผลในภายหลัง พบบ่อยบริเวณหน้าแข้ง หลังมือ แขน และผิวหนังทั่วร่างกาย ถ้าผิวหน้าแห้งบ่อยๆ อาจทำให้เกิดปัญหาฝ้า ริ้วรอยเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัยอันควร ในรายที่เป็นมากๆ ชั้นผิวหนังด้านบนจะหดตัว แห้งแตกเป็นร่องได้
สาเหตุ มักเกิดจากการขาดน้ำในส่วนผิวหนังส่วนนอก ซึ่งอาจเกิดจากความชื้นของอากาศน้อย เช่นในหน้าหนาว หรืออยู่ในห้องปรับอากาศนานๆ การใช้สบู่ที่ชำระล้างไขมันบนผิวหนังมากเกินไป แต่บางครั้งอาจเกิดจากโรคภายในร่างกายได้อาทิ โรคทางต่อมทัยรอยด์ เป็นต้น
แนวทางในการวินิจฉัย เมื่อพบแแพทย์ ด้วยปัญหาทางผิวหน้งแห้งผิดปกติ เพื่อหาสาเหตุ
1.ต้องซักประวัติ แยกจากโรคภูมิแพ้ Atopic Dermatitis หรือโรคทางพันธุกรรมอย่างอื่น
2. ประวัติการเกิดโรค ประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้
3. การทำความสะอาดผิวหนัง เช่น ชนิดของสบู่ ความบ่อยในการอาบน้ำ เป็นต้น

การป้องกันและรักษาปัญหาผิวแห้ง หลักการก็คือ เพื่อป้องกันการเสียน้ำจากผิวหนังมากขึ้น และเพิ่มปริมาณน้ำที่เสียไปให้กับผิวหนัง ดังนี้

  1. การอาบน้ำ ไม่ควรอาบน้ำบ่อย น้ำที่อาบควรเป็นน้ำอุ่น ไม่ร้อนจัด อุณหภูมิ ประมาณ 34 องศาC
  2. ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ให้พอดีรู้สึกสบาย
  3. เพิ่มความชื้นให้กับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้เครื่องเพิ่มความชื้น(Ultrasonic humidifiers)
  4. ทาครีมที่ลดการสูญเสียน้ำ อาทิ สารพวก Vaseline, Petrolatum ,Lanolin,Ceramide
  5. เพิ่มการดึงน้ำจากอากาศเข้าผิวหนัง โดยใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ 20-45 % Propylene Glycol ,Glycerine ,Urea,Ceramide
  6. การทาครีมที่มีส่วนผสมของ AHAs จะช่วยลดความหนาของผิวหนัง ลดการตึงตัว ทำให้ผิวหนังนุ่มนวลขึ้นได้
  7. การใช้ครีมทาแก้แพ้ หรือแก้คัน ที่มีส่วนผสมของสารเสตียรอยด์ ควรทาเท่าที่จำเป็น เพราะมีผลข้างเคียงทำให้ผิวแห้งมากขึ้นได้ และ ไม่ควรเกา
  8. หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือ การขัดผิว
  9. เลือกสบู่ที่ไม่มีความเป็นกรด หรือ ด่างแรงๆ ควรใช้สบู่อ่อนๆ ที่มีสารเคลือบผิว
  10. ใช้ครีมบำรุงทาเป็นประจำ ซึ่งปัจจุบันมีหลายตัวที่ได้ผลดี เช่นกลุ่มผสมยูเรีย Ceramide,Aloe vera

Related