คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ในอาหารเสริม ได้ผลเหมือนกับการรับประทานผักใบเขียวมั้ย
คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในผักใบเขียวทุกชนิด เป็นรงควัตถุสีเขียว สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1.ประเภทที่ละลายในน้ำ
2. ประเภทที่ละลายในไขมัน คลอโรฟิลล์ในชั้นของใบพืชที่มีประโยชน์จะมีประสิทธิภาพเมื่ออยู่ในสภาพที่ละลายในไ่ขมันเท่านั้น
ประโยชน์ของ คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll)
1. ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ
2. ช่วยในการลดความผิดปกติของเลือดจากภาวะโลหิตจาง(anemia)
3.ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้
4.มีฤทธิ์ในการต้านขบวนการออกซิเดชั่น ที่ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพหรือหมดอายุก่อนวัยอันควร
5. ช่วยชำระล้างสารพิษ หรือ ขจัดของเสียจากร่างกาย
6. ช่วยลดปัญหากลิ่นปาก หรือกลิ่นตัวได้
7. ลดกลิ่นของปัสสาวะ อุจจาระ หรือแผลเน่าได้
คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ในอาหารเสริมได้ผลมั้ย
ปัจจุบัน จากการศึกษาข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์พบว่า ยังไม่มีการสรุปในระดับที่น่าเชื่อถือได้ว่าคลอโรฟิลล์ที่เรานำมาบริโภคในรูปของอาหารเสริมเพื่อสุขภาพนั้นเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ
น้ำคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ลดกลิ่นปากได้มั้ย
มีการกล่าวอ้างว่า มีส่วนช่วยในการลดกลิ่นปากและทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นได้ แต่ในความจริงกลับพบว่าสินค้าที่วางขายอยู่โดยทั่วไปนั้นมีปริมาณค่าความเข้มข้นของคลอโรฟิลล์ไม่มากพอที่จะช่วยดับกลิ่นปากได้ ผู้ผลิตหลายรายจึงเลือกใช้วิธีการแต่งสีเพื่อเพิ่มความน่ารับประทานให้แก่ผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ไม่ค่อยจะพบประโยชน์มากเท่าใด
โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถได้รับสารคลอโรฟิลล์ได้จากพืชทั่วๆไป การรับประทานผักผลไม้ที่มีสีเขียวจะช่วยให้ร่างกายของเราได้รับคลอโรฟิลล์ไปด้วย โดยสารคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในรูปธรรมชาตินี้จะอยู่ในรูปคลอโรฟิลล์ที่ละลายในน้ำมัน ตัวอย่างเช่น ในผักชีฝรั่ง 1 ถ้วย มีคลอโรฟิลล์สูงถึง 38 มิลลิกรัม ผักขม 1 ถ้วย มีคลอโรฟิลล์ 23.7 มิลลิกรัม ดังนั้น หากเรารับประทานผักผลไม้สดเป็นประจำ ร่างกายก็ไม่จำเป็นจะต้องได้รับคลอโรฟิลล์เพิ่มเติมแต่อย่างใด