ผิวมัน เกิดจากอะไร
ผิวมันเกิดจากต่อมไขมันบนใบหน้าผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป โดยมักพบได้ในชาย มากกว่าหญิง พบในวัยรุ่น จนถึงวัยกลางคน ปัญหาหน้ามันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ สิวอุดตัน และรูขุมขนกว้าง ในภายหลังได้ โดยปัจจัยที่อาจทำให้หน้ามัน ได้แก่
- กรรมพันธุ์ ลักษณะทางพันธุกรรมที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป อาจถูกส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นได้
- สภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศก็อาจทำให้เกิดหน้ามันได้เช่นกัน
- ระดับฮอร์โมนเพศชายในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น เข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ หรือป่วยด้วย ซึ่งเป็นความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อจนทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายขาดความสมดุล
- การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าหรือเครื่องสำอาง เพราะเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจทำให้ความมันบนใบหน้าขาดความสมดุล
การป้องกันและแก้ไข
1. ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ควรเลือก สบู่ล้างหน้า อาจเป็นก้อน หรือ สบู่เหลวก็ได้ เพราะในสบู่ จะมีสารที่ทำให้เกิดฟอง ซึ่งสามารถลดความมันบนใบหน้าได้ ผู้ที่มีผิวมัน สามารถล้างหน้าได้บ่อย 4-5 ครั้งต่อวันได้ ในกรณีที่ไม่สามารถพกพาสบู่ล้างหน้าไปได้ในทุกที่ การล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดบ่อยๆ หรือทุกครั้งที่หน้ามัน ก็เป็นสิ่งที่ดี การใช้เจลล้างหน้า หรือโฟม ควรเลือกเป็นพิเศษสำหรับผิวมัน แต่มักล้างความมันบนใบหน้าได้น้อยกว่าสบู่ล้างหน้า
2. โลชั่นหรือโทนเนอร์ เพื่อเช็ดหน้าลดความมัน เป็นสิ่งที่แนะนำให้ใช้ ถ้าล้างหน้าด้วยสบู่อย่างเดียวแล้วผิวหน้ายังมันอยู่
3. Oil Control Products ซึ่งจะช่วยซับความมัน ควรเลือกที่มีอนุภาคเล็กๆ ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปซับได้ในรูขุมขน ซึ่งต้องมีขนาดที่เล็กมากเป็น Micron
4. ครีมกันแดด เลือกลักษณะที่เป็นโลชั่น หรือ ครีมที่มี SPF = 15 ก็เพียงพอ เพราะถ้าเลือกครีมกันแดด ที่มี SPF สูงกว่านี้มักจะมีความมันสูง ก่อนใช้ครีมกันแดดยี่ห้อใด ควรลองทาครีมบริเวณท้องแขน เพื่อทดสอบอาการแพ้ หรือ ความมัน ก่อนการตัดสินใจในการซื้อครีมกันแดด
5. หลีกเลี่ยงของมัน ขนมหวาน ไอสครีม และอาหารที่มีแคลอรี่สูง หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
6. ยาเม็ดคุมกำเนิด ที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมน Progesterone เฉพาะชนิดที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมน Angrogen ได้ จึงสามารถทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันลดลงได้ แต่การทำงานดังกล่าวอาจรบกวน การมีประจำเดือนในผู้หญิงได้ จึงได้มีการเสริมฮฮร์โมนเพศหญิงคือ Estrogen ร่วมด้วย จึงอยู่ในลักษณะคล้ายยาคุมกำเนิด คือบรรจุเป็นแผง 21 เม็ด ที่นิยมใช้ในคลินิกผิวหนังก็คือ Dian-35 แต่ในผู้ชาย ไม่แนะนำให้รับประทาน เพราะมีผลต่อระดับฮอร์โมนเพศชาย อาจจะทำให้สมรรภภาพทางเพศลดลง หรือมีนมโต( Gynecomastia )ได้ ซึ่งแม้จะหยุดทานยา อาการนมโต ก็ไม่อาจจะหายได้
7. ยารักษาสิว กลุ่ม Retinoids เช่น Roaccutane หรือ Acnotin วันละ10-20 มก.ต่อวัน ก็เป็นการช่วยได้มาก เพราะยาในกลุ่มนี้ จะช่วยลดการสร้างไขมันที่ต่อมไขมันบนใบหน้า นอกจากนี้ยังช่วยรักษาปัญหาสิวอุดตัน รูขุมขนกว้าง และริ้วรอยแผลเป็นได้ดี แต่ก็ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพราะกรณีที่รับประทานติดต่อกันนานๆ อาจจะมีผลต่อตับ และไขมันในเลือดผิดปกติได้ นอกจากนี้ อาจจะมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้
8. Fractional Laser: ที่ความยาวช่วงคลื่น 1550 nm เช่น Fraxel หรือ Fine scan 1550 nm โดยพบว่าพลังงานเลเซอร์ได้ไปทำให้ต่อมไขมัน ทำงานลดลง จึงลดหน้ามันได้ดี ปัจจุบันแพทย์จะแนะนำให้เลือกวิธีนี้ มากกว่าการรับประทานยา ลดหน้ามัน เพราะไม่มีผลข้างเคียง แลัวยังช่วยรักษาและป้องกันสิวได้ทุกชนิด กระชับรูุขุมขน ลดริ้วรอย ฯลฯ