หอยนางรม (Oyster): คุณประโยชน์ต่อร่างกายครบ จบใน 1 ตัว แต่รับประทานแค่ไหน จึงจะปลอดภัย
หอยนางรม เป็นหอยประเภท 2 ฝา เป็นสัตว์ในตระกูล Crassosteagis thunberg อาศัยอยู่ในทะเล พบมากในมหาสมุทรแปซิฟิต โดยคุณภาพหอยนางรม จะขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งที่มันอาศัยอยู่ และเชื่อว่าญี่ปุ่นจะเป็นแหล่งที่หอยนางรมมีคุณภาพมากแหล่งหนึ่ง
หอยนางรม เป็นอาหารที่เลิศรสอย่างหนึ่งในร้านอาหารซีฟู๊ดทั้งหลาย และสนนราคาก็แพงเอาการทีเดียว เพราะเชื่อกันว่า สารอาหารที่อยู่ในหอยนางรมมีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ บางคนเชื่อว่าเป็นยาโด๊บจากธรรมชาติเลยทีเดียว ลองมาดูรายละเอียดของหอยนางรม
ส่วนประกอบและคุณสมบัติที่พบจากหอยนางรม
1. Taurin เป็นกรดอะมิโนตัวหนึ่งที่หลายคนไม่ค่อยรู้จัก โดยมีความสำคัญต่อร่างกาย ดังนี้
1.1 ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โดยเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับระบบ Renin-Angiotensin ในระบบไต
1.2 ช่วยควบคุมการแลกเปลี่ยน เข้าออก ของอิออนต่างๆ จากเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว ปฏิกริยารีเฟล็กซ์ จึงพบได้มากในเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท ในเรื่องกระแสประสาทที่สมองส่วนกลาง ในเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อลาย และหัวใจ
1.3 ช่วยในการสร้าง taurocholate ซึ่งจะไปทำให้ไขมันที่รับประทานเข้าไป แตกตัวเป็นโมเลกุลเล็กๆ ทำให้สามารถย่อยและเผาผลาญได้ง่ายขึ้น ทำให้ร่างกายนำพลังงานไปใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้เร็วขึ้น
1.4 ช่วยให้สเปริ์ม เคลื่อนที่และมีกำลังเคลื่อนที่ดีขึ้น ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้นในผู้ป่วยที่มีบุตรยาก
2. Glycogen เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญอย่างหนึ่งของร่างกาย ที่สามารถนำไป ใช้งานได้โดยตรงทันที เมื่อร่างกายอ่อนเพลีย หรือต้องการกำลังงานเพิ่ม
3. Essential Minerals เช่น สังกะสี (ซึ่งเป็นส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศชาย Testosterone) ธาตุเหล็ก ทองแดง ไอโอดีน ซีลีเนียม ( ซึ่งเป็นสาร Antioxidants ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย พร้อมทั้งเชื่อว่า สามารถกระตุ้นความต้องการทางเพศได้
4. Essential Fatty acids หลายตัวที่เป็นส่วนประกอบของฮอร์โมนที่สำคัญ ในร่างกาย และพบว่าสามารถเพิ่มจำนวน sperms ได้
5. Vitamins หลายตัวที่ช่วยเสริมสร้างให้สุขภาพทั่วไปของร่างกายแข็งแรงขึ้น
รับประทานได้แค่ไหน ไขมันไม่สูง ไม่ท้องเสีย
หลายคนอาจกังวลว่าหอยนางรมจะมีคอเลสเตอรอลเยอะเกินไปหรือไม่ และหากกินสดจะเสี่ยงอันตรายอะไรหรือเปล่า โดยพบว่า หอยนางรมมีระดับไขมันคอเลสเตอรอลต่ำเมื่อเทียบกับอาหารทะเลชนิดอื่น ๆ โดยหอยนางรมดิบปริมาณ 85 กรัมมีคอเลสเตอรอลเพียง 21 มิลลิกรัมเท่านั้น
แม้สารอาหารทั้งหมดในหอยนางรม 1 ตัว จะมากมาย แต่ เราไม่ควรกินหอยนางรมเกิน 5 ตัวใน 1 มื้อ เพราะหอยนางรมเกือบทุกตัวมีเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Vibrio parahaemolyticus และเชื้อ Salmonella ซึ่งถ้ามีปริมาณมากไป จะทำให้มีอาการท้องเสีย ท้องร่วง
ส่วนใครที่เป็นโรคตับ ติดสุราเรื้อรัง เอชไอวี หรือกำลังทานยากดภูมิคุ้มกันอยู่ อาจมีอาการหนักกว่าคนปกติ มีความเสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด และรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นใครที่มีความเสี่ยงดังกล่าว ไม่ควรทานหอยนางรม
การเลือกซื้อหอยนางรม อย่างไรให้ปลอดภัย
- เลือกซื้อหอยนางรมจากแหล่งผลิตที่ไว้ใจในคุณภาพได้
- สังเกตความสะอาดของเปลือก และภายในของหอย ต้องสดใหม่ สะอาด ไม่มีกลิ่นไม่เหม็นคาว
- สีของหอยไม่เปลี่ยน หรือผิดปกติไปจากเดิม เช่น เนื้อของหอยไม่ยุ่ยเละ สีไม่คล้ำ
- เลี่ยงการทานน้ำทะเลที่มากับหอย
- ถ้าจะให้ปลอดภัยที่สุด คือ ควรกินหอยนางรมปรุงสุก แม้ว่าจะกินกับมะนาว หรือการปรุงสุกด้วยกรด ก็ยังไม่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มากับหอยได้ และที่สำคัญอย่ากินหอยนางรมมากเกินไปในคราวเดียว เพราะอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรียได้มากกว่าเดิม