ในปัจจุบันนี้ ใครๆก็อยากมีผิวสวย การปรนนิบัติผิวให้เปล่งปลั่งมีสุขภาพดีนั้น นอกจากการทำความสะอาดและบำรุงผิวตามขั้นตอนแล้ว การขัดผิว ก็เป็นอีกกรรมวิธีหนึ่งที่สาวๆ หลายท่านนิยมกัน โดยเฉพาะกลุ่มนางงามทั้งหลาย
การขัดผิว มิใช่เรื่องซีเรียส หรือเป็นเรื่องที่จำเป็นที่จะต้องทำมากนัก เพราะปกติผิวหนังของคนเรา โดยธรรมชาติ จะมีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ใหม่ทุกอาทิตย์หรือ ทุกเดือนอยู่แล้ว ในรูปของขี้ไคล ซึ่งตามปกติจะใช้เวลาประมาณ 3-4 อาทิตย์ แต่เมื่ออายุมากขึ้น รวมถึงปัจจัยภายนอกหลายๆ อย่าง อาจทำให้การผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ทำได้ช้าลง ทำให้ผิวพรรณดูหม่นหมองไม่สดใส และอาจทำให้ครีมบำรุงไม่อาจซึมซับเข้าไปใต้ผิวหนังกำพร้า
บางคนจึงอยากทำการขัดผิว วิธีการในการขัดผิว นั้นมักจะใช้ฟองน้ำ ใยบวบ หรือผ้าขนหนู เป็นการช่วยขจัดผลัดเซลล์ที่ตายแล้ว ออกจากผิวหนังชั้นบนสุด การถูช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นด้วย จึงทำให้ผิวเรียบเนียนและสดใส
ในบางคนอาจใช้ครีมสครับช่วยด้วย การเลือกครีมสครับนั้น ควรพิจารณาที่ความละเอียดและขนาดของเม็ดสครับ ควรมีลักษณะเล็กละเอียด กลมกลึงและนุ่นนวล เพื่อป้องกันการทำลายผิวถ้ามีการขัดมากเกินไป จึงคิดว่าควรเลือกครีมสครับที่มนุษย์ผลิตขึ้น มากกว่า เม็ดสครับจากธรรมชาติเช่น เม็ดแอปริคอต เพราะมีลักษณะที่คม เป็นฟันเลื่อยและลักษณะเม็ดไม่สม่ำเสมอ
การเลือกครีมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ ( AHAs) ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่นำมาขัดผิว เพราะไม่ต้องกังวลถึง ความละเอียดและขนาดของเม็ดสครับ และความเข้มข้นของ AHAs ก็ไม่มากประมาณ 5-8 % AHAs ทำให้การขัดผิวเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำลายผิวหนังมากนัก แต่ก็มีราคาแพงเอาการอยู่ทีเดียว ถ้าต้องขัดทั้งตัว แต่ก็ไม่แนะนำให้ขัดผิว ด้วยครีมสครับ ควบคู่กับครีมที่ผสมกรดผลไม้ ควรเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
การขัดผิวถ้าอายุไม่มาก แนะนำให้ทำเพียงเดือนละ 1 ครั้ง แต่ถ้าอายุมากกว่า 40 ปี ควรทำอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ เพราะถ้าขัดมากเกินไป อาจทำให้ผิวหนังบาง อ่อนแอ และไวต่อแสงแดด ทำให้เกิดอันตรายต่อผิวได้
หลังการขัดผิว อย่าลืมทาครีมบำรุงผิว และทากันแดดก่อนออกจากบ้าน หรือสถานความงามที่ไปการขัดผิว มิฉะนั้นการลงทุน ทั้งเวลาและกำลังทรัพย์ อาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไร