คะน้า จัดเป็นพืชผักที่แทบจะเป็นเครื่องเคียงประจำโต๊ะอาหารของบ้านเรา เนื่องจากหาง่าย ราคาไม่แพง และรสชาดที่ไม่ขมมากนัก และเป็นผักแกล้มชั้นยอด ที่ควบคู่กับอาหารรสจัด หรือนำมาผัดใส่น้ำมันหอยราดข้าว หอมกรุ่นทีเดียว ลองมาทำความรู้จักกับผักชนิดนี้กันหน่อยนะครับ
คุณประโยชน์และส่วนประกอบ ของคะน้า
- สารเบตาแคโรทีน ในปริมาณที่สูง ซึ่งสารนี้จะแปรเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ ซึ่งวิตามินเอนี้ มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ใช้ป้องกันรักษาสิว มีฤทธิ์ต้านทานการติดเชื้อ และเป็นวิตามินบำรุงสายตา ทำให้มองเห็นได้ดีในตอนกลางคืน อนึ่งคุณประโยชน์อย่างละเอียดของวิตามินเอ ได้เขียนบทความไว้ให้แล้ว
- วิตามินซี โดยพบว่า คะน้า 100 กรัมจะมีปริมาณวิตามินซีสูงเป็น 2 เท่าที่ร่างกายต้องการต่อวัน ซึ่งวิตามินซีนี้ มีบทบาทและคุณประโยชน์ อย่างมากในการป้องกันโรคหวัด ทำให้เชื้ออสุจิแข็งแรง เป็นสารไวเทนนิ่งทำให้ผิวหน้าไม่หมองคล้ำ ลดรอยด่างดำ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ ซึ่ง คุณประโยชน์อย่างละเอียดของวิตามินซี ได้เขียนบทความไว้ให้แล้ว
- ธาตุเหล็ก ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง และจะทำหน้าที่ในการพาออกซิเจน ไปยังเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้นและนานขึ้น
- โฟเลต เป็นสารที่สำคัญในกระบวนการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์และกล้ามเนื้อ และช่วยเสริมการทำงาน ของระบบประสาท ช่วยลดอาการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อได้ โดยทำงานร่วมกับวิตามินบี 12
- แคลเซียม ซึ่งจะพบว่าแคมเซียมนี้ ก็จะเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย
- สารต้านมะเร็ง โดย ดร. วอลเตอร์ วิลเลตต์ แห่งคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลับฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นหน่วยงานชั้นนำทางด้านโภชนการและโรคมะเร็ง ได้รายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับคะน้า ว่ามีสาร Carotenoids สูง ซึ่งสารนี้เป็นสารสีธรรมชาติในผักและผลไม้ มีฤทธิ์ป้องกันและต้านมะเร็งได้
ดังนั้นการรับประทานคะน้าเป็นประจำและในปริมาณที่พอเพียง จึงก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งในด้านผิวพรรณ สายตา ระบบหมุนเวียนโลหิต และป้องกันมะเร็ง นอกจากนี้ยังพบว่าคะน้าเป็นพืชเส้นใย ที่ช่วยควบคุมและลดน้ำหนักได้ในคนที่ต้องการควบคุมอาหารอีกด้วย